ช่วงต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปนำเสนองานวิจัยที่สเปนครับ และประกอบกับที่บ้านอยากจะไปเที่ยวยุโรปกัน ผมเลยถือโอกาสลางานต่อและไปเที่ยวหลังจากนำเสนองานวิจัยเสร็จสิ้นแล้วครับ ก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ไปเปิดหูเปิดตากับยุโรปใต้ในครั้งนี้ครับ
ก่อนไป สิ่งแรกที่จะต้องเตรียมก่อนไปเลยคือการวางแผนการเที่ยว จองเที่ยวบิน โรงแรม และทำวีซ่าครับ เนื่องจากผมจะต้องไปนำเสนอที่เมือง Vigo ประเทศสเปนและประชุมเป็นเวลาประมาณสี่วัน และจะเที่ยวกับที่บ้านต่อด้วย เราเลยวางแผนกันว่าเที่ยวกับที่บ้านจะเริ่มจากโปรตุเกส แล้วลัดเลาะมาตามแนวทะเลเมดิเตอรเรเนียน ผ่านสเปน ฝรั่งเศสตอนใต้ โมนาโค และจบที่อิตาลีครับ
สรุปทริปยุโรปใต้ กค 2560
สรุปทริปญี่ปุ่นปลายปี ธันวาคม 2559
ช่วงกลางเดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งครับ คราวนี้ไปแบบสั้นๆ เนื่องจากจริงๆ คืออยากจะไปเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะรู้สึกเบื่อๆ อยากดูโตเกียวตอนใบไม้ร่วงบ้าง แล้วก็อยากจะช็อปปิ้งสักนิดหน่อย บวกกับกดตั๋วของ Cathay Pacific มาได้หมื่นกลางๆ กับไปนอนค้างบ้านญาติห่างๆ ที่โน่นก็เลยไปครับ
วิวโตเกียวในฤดูใบไม้ร่วง มองจากตึก Tokyo Metropolitan Building |
Posted in Cathay Pacific, Ebisu, Ginza, Japan, Kamakura, Kappabashi, Shinjuku
สรุปทริปปีนฟูจิ สิงหาคม 2559
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้มีโอกาสไปปีนภูเขาที่ใครๆ ก็รู้จักกันครับ นั่นก็คือ ภูเขาไฟฟูจิ \0/ เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้มีโอกาสไปปีนเขากับเพื่อนๆ (ไม่เคยปีนที่ไหนมาก่อน แม้แต่ภูกระดึงก็ไม่เคยไป) แต่ก็ทำใจแล้วครับว่าจะต้องเหนื่อยแน่นอนคงไม่เหมือนเที่ยวญี่ปุ่นที่เคยๆ มา แล้วก็เหนื่อยมากๆ จริงๆ ครับ แต่ในที่สุดก็พิชิตมันมาได้ ก่อนหน้าปีนนี้ผมฟิตซ้อมร่างกายด้วยการเดิน Threadmill โหมด Hill มาสักระยะหนึ่งก่อนแล้วครับ แต่ดันมาขาแพลงตอนหนึ่งเดือนก่อนหน้า เกือบจะอดปีน -_-"
ส่วนของการเตรียมตัว อุปกรณ์ต่างๆ และการเลือกเส้นทางในการปีน ผมว่าจะเขียนเก็บบันทึกไว้อีกโพสต์หนึ่งละกันนะครับ อันนี้ขอสรุปคร่าวๆ ก่อน
Posted in Fuji, Fuji Climbing, Fuji Q Highland, Fuji Summit, Hiking, Japan, Kawaguchi-ko, Shinjuku
สรุปทริปฟุกุโอกะ มีนาคม 2559
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปญี่ปุ่นอีกครั้งครับ นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกของปีนี้เลยนะ แล้วก็ไปเที่ยวที่ๆ ผมไม่เคยไปมาก่อน.. ฟุกุโอกะครับ เนื่องจากผมไม่ต้องการหยุดนานมาก (งานรัดตัว) ประกอบกับว่าจริงๆ คืออยากไปช็อปปิ้งดูเฉยๆ แล้วก็จองได้ตั๋ว Jetstar ไปกลับแบบถูกมากๆ (หกพัน บวกอีกพันสองพันค่าโหลดกระเป๋าครับ) เลยจองเมื่อเดือนมกรา แล้วก็ไปเลยในเดือนนี้ครับ
ช่วงที่หาที่พักผมเองก็รู้สึกลำบากใจ (กลัวงบบานปลาย) เลยเลือกที่พักแบบ Hostel ครับ ก็เรียกได้ว่ายอมรับสภาพที่อาจต้องไปนอนรวมกับคนอื่นได้ พอดีเพื่อนที่ไปด้วยโอเคก็เลยลองจอง ปรากฎว่าได้ห้องรวมสองคนครับ พักที่ Fukuoka Hana Hostel ซึ่งเราสองคนประทับใจมากครับ เพราะอยู่ใกล้ที่ช็อปปิ้งมากเลย (จริงๆ คืออยู่กลางช็อปปิ้งอาเขตเก่าแก่ของที่นี่ ที่ชื่อว่า Kawabata 川端 เลยแหละ เปิดไปข้างๆ เป็นร้านร้อยเยน 0/) เดินอีกสองสามร้อยเมตรก็ถึง Maxvalu ที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง และอยู่ติดกับห้างดังของที่นี่คือ Canal City ครับ
สภาพตัวที่พักเองก็ถือว่าดีมาก เนื่องจากสภาพห้องก็มาตรฐานตามโรงแรม Business Hotel ของญี่ปุ่นทั่วไปครับ แต่ด้วยความเป็นโฮสเทลทำให้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากเท่าไหร่ (ไม่มีผ้าเช็ดตัว พอดีผมเอาไปเองเลยไม่ต้องจ่ายเพิ่มผืนละ 100 เยน) แต่ก็มีห้องอาบน้ำอุ่น และห้องน้ำรวมก็ดีมากเลยครับ (เป็นห้องน้ำรวมที่สะอาดมากๆ และค่อนข้างใหม่ครับ สภาพเหมือนเราอยู่บ้านแล้วแชร์ห้องน้ำกับคนอื่นน่ะครับ)
วันแรก 11 มีนาคม 2558 สุวรรณภูมิ - สนามบินฟุกุโอกะ
- นั่งเครื่องยี่ห้อ Jetstar ครับออกจากสุวรรณภูมิประมาณตีสองครับ ตอนเข้าไปก็ราวๆ ห้าทุ่มเที่ยงคืนครับ เช็คอินเสร็จผมก็ไปซื้อของ Duty Free แล้วก็ไปนั่งเล้าจ์คิงพาวเวอร์(ฟรี)ตามเคย ปรากฎเกือบไม่ทัน 555 วิ่งไปเคี้ยวไส้กรอกไปในสนามบิน (แต่จริงๆ ก็ทันแหละเพราะนั่งหน้าต้องขึ้นเครื่องเป็นคิวหลังๆ อยู่แล้ว)
- เครื่องบินขาไปค่อนข้างเก่านิดหน่อย แต่นักบินขับได้นุ่มดีครับ ดีกว่าตอนเวียดนามแอร์ไลน์เยอะเลย (หรือตอนนั้นผมซวยเองก็ไม่รู้นะ)
- ขึ้นเครื่องมาแอร์ก็เสริฟข้าวเลย (ผมซื้อข้าวไว้ตั้งแต่ตอนจองตั๋ว) ซึ่งมันประหลาดมากเพราะตอนนั้นมันก็ราวๆ ตีสามตีสี่.. แต่ก็บอกเขาว่าขอเก็บไว้กินตอนหลังเขาก็โอเคแต่เขาบอกว่าอาจจะไม่ร้อนครับ
- มาถึงสนามบินฟุกุโอกะตอนประมาณเก้าโมงเช้าครับ ก็ไปซื้อตั๋ว JR Kyushu Rail Pass ตรงด้านหน้าทางออกของตรวจคนเข้าเมืองเลยครับ ผมซื้อแบบสามวัน (คือจริงๆ ใช้ไม่คุ้มมากหรอกเพราะไปแค่คุมะโมโต้ด้วยชินคันเซ็นแค่นี้ แต่มันก็ยังถูกกว่าซื้อตั๋วชินคันเซ็นเป็นเที่ยวละนะ)
- นั่งรถ Shuttle Bus จาก International Terminal ไปลง Domestic Terminal ซึ่งมีสถานีรถไฟใต้ดินครับ เนื่องจากสอง Terminal นี้อยู่ห่างจากกันไกลเหมือนกัน เลยเลือกที่จะนั่งรถบัสไปลงรถไฟใต้ดินครับ รถบัสออกทุกสิบห้านาที ขาไปคนไม่เยอะแต่ระวังถ้าไฟลท์คนเยอะก็อาจจะเต็มได้นะครับ
- ซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบวัน (ห้าร้อยกว่าเยน) นั่งรถไฟใต้ดินจากสนามบินไปลงที่สถานี Nakatsu-kawabata ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดของ Hostel ครับ (ทางออกจะอยู่ฟากหนึ่งของช็อปปิ้งอาเขต แต่โฮสเทลอยู่อีกฟากของช็อปปิ้งอาเขตครับ)
- เช็คอิน Hostel แล้วฝากกระเป๋าครับ
- เราลองเดินจาก Hostel ไปที่สถานีฮากาตะครับ พบว่าจริงๆ ก็ไม่ไกลมากครับ แต่ถ้าขนกระเป๋าหนักๆ มานั่งรถไฟจะดีกว่า
- แวะกิน Starbucks ซึ่งช่วงนี้มีเมนูใหม่พอดี เป็น Freppe สตรอเบอรี่ผสมซากุระ
- จองตั๋วและนั่งชินคันเซ็นจาก ฮากาตะ (สถานีหลักของฟุกุโอกะ) ไปยัง คุมะโมโต้ครับ
- เที่ยวชมในสถานีคุมะโมโต้ครับ พอดีตอนที่ไปเขาฉลองชินคันเซ็นครบห้าปี ให้คุมะมง (มาสคอตประจำเมืองอันสุดโด่งดัง) เป็นนายสถานีพอดี 55
- นั่งรถรางไปชมปราสาท คุมะโมโต้ครับ
- ทานราเม็งที่แถวปราสาทคุมะโมโต้ครับ
- เดินเล่นแถวนั้นแล้วนั่งรถรางกลับมาที่สถานีคุมะโมโต้ครับ
- นั่งชินคันเซ็นกลับครับ
- ตอนเย็นเราไปกินบุฟเฟต์ขาปูครับ ร้านชื่อ บิคุริคานิยะ びっくりかにや ราคาไม่แพง 2500 เยนเติมได้ไม่อั้นครับ 90 นาที ลักษณะจะเป็นชาบูครับ อร่อยและถูก แนะนำครับ (แต่ต้องจองนะ ผมฝากเพื่อนที่ญี่ปุ่นจองครับ)
- กลับแถวที่พัก ซื้อขนมของฝากเล็กๆ น้อยๆ ที่ Maxvalu แถวนั้นครับ
- ตื่นเช้า เราไปเดินเที่ยวย่าน เท็นจินครับ
- มีห้างหลายห้างมากครับ ผมเดินไปซื้อดีวีดีที่ร้าน Mandarake ตามที่ตั้งใจครับ ร้านนี้ขายพวกเกม ดีวีดีมือสอง ฟิกเกอร์ต่างๆ
- ไปกินราเม็ง Ippudo สาขาดั้งเดิม original ที่ย่านเท็นจินครับ ร้านจริงๆ อยู่ในตรอกเล็กๆ แทบไม่มีคนเลยครับ ส่วนใหญ่คนไปกินสาขาที่ใหญ่กว่าตรงถนนใหญ่กันครับ (คิวยาวด้วย) แต่ร้านค่อนข้างแคบ อารมณ์ร้านก๋วยเตี๋ยวเมืองไทย
- เดินเล่นแถวนั้น กินเฟรปเป้ซากุระ
- ช็อปปิ้งของฝากในชั้นใต้ดินห้าง Mitsukoshi ย่านเท็นจินครับ ได้ขนมของฝากมาเล็กน้อย
- นั่งรถไฟกลับไปเก็บของที่ Hostel ครับ
- เดินไปเดินเล่นที่ห้าง Canal City ครับ ผมไปเดิน Uniqlo, แวะร้านมูจิ, ร้านขนมลูกเจี๊ยบฮิโยโกะ
- เดินไปสถานีฮากาตะครับ ไปถ่ายรูปกับไฟหน้าสถานีและตุ๊กตาโดเรมอนหน้าสถานีครับ
- ช็อปปิ้งร้านร้อยเยน Can do ที่ห้าง Yodobashi ข้างๆ สถานีฮากาตะครับ
- ช็อปปิ้งร้านไดโซะที่ด้านบนของ Hakata Bus Terminal ครับ จะบอกว่าร้านใหญ่มากๆ ใครไปแวะที่นี่น่าจะดีกว่าแวะร้านร้อยเยนที่อื่นครับ
- นั่งรถไฟกลับมาที่ Hostel ครับ
- ออกไปกินซูชิตอนเย็นที่ Sushi Zanmai ตอนห้าทุ่มครับ (ร้านนี่เปิด 17.00-05.00 น. ครับ เพราะแถวนั้นเป็นไนต์คลับ ถ้าใครกินไม่ทันที่อื่นมากินตรงนี้ก็ได้ครับ)
- กลับ Hostel นอนครีับ
- ตื่นเช้าเพราะไฟลท์ออกสิบโมง เราเลยเดินไปรถไฟใต้ดินกลับสนามบินตอนเจ็ดโมงครับ
- เช็คอิน Jetstar คนเยอะ เสียเวลาพอควรครับ
- ขึ้นเครื่องตอนสิบโมงตรงเวลา
- ถึงไทยตอนบ่ายสองโมงครับ
แนะนำวิธีการมาพบแพทย์ที่ รพ. รามาธิบดี (Update มี.ค. 2561)
บล็อกนี้ผมขออนุญาตเล่าเกี่ยวกับวิธีการมาพบหมอที่โรงพยาบาลนะครับ (คือจะทำยังไงให้เราเจอกันได้อ่ะเนอะ 555) จากประสบการณ์ที่มักจะมีคนใกล้ตัวอยากจะมาพบหมอ มาตรวจที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็เลยขอแนะนำกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์นะครับ
ก่อนอื่น ขอแนะนำโรงพยาบาลก่อนนะครับ โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นโรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัย หรือเป็นโรงเรียนแพทย์ครับ ชื่อเต็มๆ คือ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นสถาบันผลิตแพทย์และให้บริการผู้ป่วยด้วย ดังนั้นก็จะมีบุคลากรต่างๆ มากมาย สำหรับผู้ป่วยแล้วการมาพบแพทย์ที่นี่ ก็อาจจะได้พบกับทั้งการตรวจกับนักศึกษาแพทย์ แพทย์ที่จบแล้วแต่กำลังศึกษาต่อเฉพาะทาง และอาจารย์แพทย์ครับ สำหรับใครที่ได้ตรวจกับนักศึกษาแพทย์ไม่ต้องกังวลนะครับ ทุกครั้งที่ต้องตรวจกับนักศึกษาแพทย์ จะมีอาจารย์มาตามตรวจให้ทุกครั้งครับ (เรียกได้ว่าละเอียดกว่าอีกเพราะมีสองคนตรวจให้ แต่อาจจะเสียเวลากว่านิดหน่อย)
Posted in appointment, doctor, hospital, ramathibodi, พบแพทย์รามา, รามาธิบดี, วิธีมาหาหมอ, หาหมอรามา