ผมเขียนสรุปทริปญี่ปุ่นมาก็หลายรอบแล้ว ยังไม่ได้ลงเจาะลึกอะไรเลยสักรอบ คราวนี้จะขอพาไปเจาะลึกในรายละเอียดบ้างละกันนะครับ ตอนแรกจะขอพาไปกินเนื้อโกเบอันเลื่องชื่อละกันครับ
ก่อนอื่นเลยถ้าเราจะไปกินเนื้อโกเบ ต้องเดินทางไปถึงที่โกเบก่อนนะครับ เมืองโกเบ (神戸 ภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า โคเบะ こうべ) หากเดินทางมาจากโอซาก้า สามารถมาได้ทางรถไฟครับ ผมเลือกมาด้วยสายรถไฟ JR Kobe Line ซึ่งขึ้นที่สถานี JR Osaka ครับ จริงๆ จะมาทางสายรถไฟเอกชน Hankyu Line หรือ Hanshin Line (แต่จะช้ากว่านิดหน่อยประมาณสิบห้านาที) หรือจะนั่งชิงกันเซ็นมาก็ได้ครับ (แต่แพง และไม่ถึงย่านสำคัญ) โดยย่านที่เป็นตัวเมือง ร้านรวงเยอะๆ จริง นั้นไม่ใช่สถานีโกเบนะครับ เป็นสถานี Sannomiya (三ノ宮) ครับ
เนื้อโกเบ (Kobe Beef) เป็นเนื้อที่ขึ้นชื่อกันอยู่แล้ว ใครมาโกเบก็นิยมมาทานกันครับ จริงๆ ร้านที่นิยมในตัวเมืองโกเบเองก็มีหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้าน Steak Land ยอดฮิตของคนไทย หรือร้านอื่นๆ แต่วันนี้ ผมลองมาทานที่ร้าน Ishida ซึ่งมีลักษณะเป็นร้านเทปันยากิ มีหลายสาขาในโกเบครับ
สาขาที่ผมมาทานเป็นสาขาหลักครับ (Honten) จริงๆ ถ้ากังวลว่าจะไม่มีที่นั่งควรต้องทำการจองก่อนนะครับ ผมให้เพื่อนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นคนโทรไปจองให้ (ให้ชื่อเขาเป็นภาษาอังกฤษ) แต่เนื่องจากวันที่ผมไปเป็นวันธรรมดา และผมไปก่อนร้านเปิด (ผมไปถึง 11 โมง ร้านเปิด 11.30) ก็เลยแทบไม่มีคิวเลยครับ ถ้าใครมาวันธรรมดา และมาตอนร้านเปิดใหม่ๆ น่าจะไม่ต้องรอนานครับ (อันนี้แผนที่ใหญ่นะครับ)
สถานที่ร้าน ยอมรับว่ามาตอนแรก หลงครับ ไปถึงเป็นอีกสาขา แถมต้องถามคนแถวนั้นซึ่งเขาก็ดูงงๆ ถ้าใครจะมาสาขานี้ ให้สังเกตตึกสูงลักษณะนี้ครับ ตัวร้านจะอยู่ที่ชั้นสามครับ (มองดีๆ ที่ชั้นสามมีเขียนชื่อร้านครับ)
เมื่อเราเดินเข้ามาในร้าน พนักงานต้อนรับจะเชิญมานั่งที่เค้าเตอร์ครับ ผมสังเกตว่ามีห้องส่วนตัวเล็กๆ ด้วยสองห้อง ถ้ามาสักเจ็ดแปดคน น่าจะปิดห้องส่วนตัวเลยก็ดีครับ แต่ผมมาคนเดียว เลยต้องนั่งกับชาวบ้านเขา (มีชาวจีนคู่นึง กับคนไทยอีกสามคนมานั่งตอนหลัง ซึ่งคงไม่รู้มั้งว่าผมแอบฟังเขาเม้าอยู่ 55)
ที่เค้าเตอร์ พนักงานจะแจกผ้ากันเปื้อนให้ใส่ครับ เสื้อจะได้ไม่เลอะนะครับ หลังจากนั้น ก็จะเอาเมนูมาให้ดู ซึ่งแน่นอนตามสไตล์ร้านอาหารในญี่ปุ่น อาหารกลางวันจะถูกกว่าอาหารเย็นมาก ร้านนี้ก็มีเมนูอาหารกลางวันครับ ซึ่งเป็นเซตเนื้อโกเบในราคาไม่แพงมากครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เนื้อที่จะเป็นเนื้อโกเบได้นั้นจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเนื้อครับ และเนื้อที่ร้านนี้ใช้เป็นเนื้อจากฟาร์มในโกเบเองด้วยครับ นอกจากนี้แล้ว จะมีการแบ่งเกรดของเนื้อตามลายไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อครับ ยิ่งมากจะยิ่งเป็นเนื้อเกรดสูงครับ โดยเต็มที่จะอยู่ที่เกรด A5 ครับ
ราคาของเซ็ตเนื้อแบบ A5 นั้นอยู่ที่ประมาณ 8,000 เยนครับ (เงินไทยก็เกือบสามพันบาท) สำหรับคนเบี้ยน้อยแบบผมก็เลือกแค่แบบ A4 ครับ .. จริงๆ คือเคยกินมาแล้วและรู้สึกว่าเนื้อ A5 มันมีความมันมากกกกกก แถมวันที่ไปก็อากาศร้อนมากกกก กลัวจะมันจุกอกตายอยู่หน้าสถานี เลยเอาแค่เซ็ตแบบ A4 มาทานครับ ราคา 5,800 เยน ในเมนูมีเพิ่มนื้ออบด้วยครับ (Roasted Beef) เพิ่มอีกแปดร้อยเยน ผมเลยเอามาลองด้วยครับ สรุปแล้วก็ประมาณสองพันบาท (กินสี่ห้าครั้งก็เท่ากับค่าเครื่องบินแล้ว)
สักพักนึงคุณพนักงานก็จะเอาเนื้ออบมาเสริฟก่อนครับ เป็นเนื้ออบสุกกำลังดี ราดมาด้วยซอสพริกไทยหลากสีแบบญี่ปุ่นรสชาติจัดจ้าน แถมสังเกตดีๆ นะครับ ในเนื้อที่อบแล้วนี่ยังคงลายไว้อย่างสวยงามเลยครับ กินแล้วอร่อยสุดๆ ไปเลยครับ เอาไปห้าดาวเลย แต่มีแค่สามชิ้นเองง่า.. 800 เยนตรู ชิ้นละสองร้อยเยนเลยเรอะ
หลังจากนั้นคุณพนักงานจะเอาเนื้อมาตั้งให้ดูครับ ว่าเราจะได้กินเนื้อชิ้นนี้ ลายแบบนี้นะครับ ซึ่งไม่ต้องมีคำอธิบายครับ ลายมันในเนื้อมันเยอะมาก ซี้ด... ลืมบอกไปว่าเนื้อในชุดนี้จะมีขนาด 150 กรัมครับ
แล้วคุณพนักงานก็จะเอาสลัดมาให้เรากินคั่นเวลาก่อนครับ สลัดผักธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษครับ แต่ก็ใช้ล้างปากเพื่อเตรียมตัวกินเนื้อชุดใหม่ได้ครับ
พอจะเริ่มกิน เชฟที่เป็นคนทำเทปันให้เราจะมาถามครับ ว่าเราต้องการให้เนื้อสุกระดับไหน ปกติผมชอบเนื้อแห้งๆ แบบ Well Done แต่ไหนๆ ก็มาแล้วอยากจะลองชิมเนื้อแบบชุ่มฉ่ำ มันแทรกนิดๆ เลยขอลองความสุกในระดับ Medium ละกันครับ
เชฟก็จะเริ่มเอาเนื้อของเราส่วนหนึ่งมาทำให้ทานก่อนครับ คิดว่าน่าจะประมาณ 120 กรัมได้มั้ง ประมาณ 3/4 ชิ้นครับ โดยทำการย่างบนเตาเทปันร้อนๆ กลิ่นเนื้อเวลาโดนเตาร้อนๆ มันหอมมากเลยครับ ตอนนั้นกลืนน้ำลายเอื้อกๆ เลย
คุณเชฟจะเอาเนื้อมาเสริฟให้เราบนจานที่อยู่หน้าเราอีกทีครับ โดยเชฟแนะนำว่า สำหรับเนื้อ ให้จิ้มกับเกลือธรรมดา, เกลือญี่ปุ่น และพริกไทยครับ หรือใครจะจิ้มกับมัสตาร์ดก็ได้ครับ แต่ผมว่าจิ้มกับเกลือธรรมดานี่แหละครับ อร่อยดี
ซูมให้เห็นกันจะๆ นะครับ เนื้อโกเบ ทานกับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ มันฟิน..
หลังจากนั้นเชฟก็จะทำเครื่องเคียงย่างมาให้เรากินครับ ได้แก่ มันฝรั่ง มะเขือ ก้อนบุก (คอนยัค) โดยแต่ละอันก็สามารถเลือกจิ้มกับเกลือ หรือมีน้ำจิ้มพอนซึเปรี้ยวๆ ตัดรสให้เข้ากันได้ครับ
พอเรากินหมดชุดแรกแล้ว เชฟก็จะทำชุดที่สองที่เหลืออยู่ครับ และสำหรับชุดที่สองนี้ เชฟจะเอาถั่วงอกไปผัดให้เรากินคู่กันครับ (แต่รสก็เหมือนผัดถั่วงอกที่บ้านธรรมดา..)
หลังจากที่กินแล้วผมพบว่า เนื้อขนาด A4 นี่ก็ยังเลี่ยนอยู่ดีครับ ใครชอบมันๆ คงจะชอบ แต่สำหรับผมที่ชอบไม่ได้มันมาก ผมว่าคราวหน้าอาจจะขอขนาดลดลงเป็นชุดเล็ก 120 กรัมน่าจะพอเหมาะกว่าครับ
เมื่อเรากินเสร็จแล้ว ก็จะมีไอศครีมเชอเบตสตรอเบอรี่มาล้างปาก กับชามะนาวครับ ผมพบว่ามันช่วยตัดเลี่ยนจากเนื้อมันๆ ได้ดีเลยครับ ไอศครีมเขาก็อร่อยดีครับ
ใครที่ชอบเนื้อ น่าจะชอบร้านนี้นะครับ ถ้าได้มีโอกาสมาโกเบ และต้องการมาให้ถึงที่ด้วยการกินเนื้อโกเบ ร้านนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ คุ้มราคา อิ่มมาก