ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาอีกแล้วครับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คราวนี้ผมไปคนเดียวล้วนๆ เพราะว่าตอนแรกนัดเพื่อนที่โน่นไว้ แล้วพอดีเขาเปลี่ยนใจจะกลับเมืองไทยตอนที่ผมจะไปพอดี แต่ก็คิดไว้แล้วว่าจะไปพักกับบ้านคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่เป็นญาติห่างๆ ซึ่งแกเป็นพ่อกับแม่ของสามีของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องผมครับ

ทริปนี้ตั้งใจจะไปแต่ที่ๆ ผมอยากไปทั้งนั้น (เลยมีแต่ที่เที่ยวเกี่ยวกับรถไฟเกือบหมดเลย) สนุกมากครับ เสียอย่างเดียววันหลังๆ ปวดขาเลยเที่ยวได้ไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่นักครับ รูปถ่ายไม่เยอะมาก (เพราะไม่มีแบบ)


ครั้งนี้ใช้บริการเครื่องบินกับ Air Macau ครับ เพราะประหยัดเงิน (ช่วงปีใหม่ตั๋วแพง) ยอมต่อเครื่องที่มาเก๊าซึ่งเวลาก็ไม่ได้เลวร้ายมาก (รอ 2-3 ชั่วโมงครับ) แต่อาหาร+สิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องยังสู้การบินไทย หรือ ANA ไม่ได้ (ผมว่าต้องยอมรับว่าการบินไทย A380 ดีสุดแล้วตั้งแต่นั่งมา 3 ยี่ห้อนี้)


ความประทับใจสุดๆ ในทริปนี้คงอยู่ที่การได้เข้าไปอยู่กับครอบครัวชาวญี่ปุ่นจริงๆ ได้มีโอกาสเห็นธรรมเนียมญี่ปุ่นในช่วงปีใหม่ สื่อสารคนญี่ปุ่นด้วยภาษาญี่ปุ่น (ผมใช้เวลานั่งเรียนคอร์ส Absolute Beginner ใน Japanese Pod 101.com ผ่าน Podcast เป็นเวลาเกือบเดือน บวกกับพอศึกษาการเขียนบ้างเล็กน้อยครับ ไม่ได้ลงคอร์สจริงจังอะไรที่ไหน ก็พอสื่อสารแบบง่ายๆ ได้ครับ) และได้เจอกับหิมะเต็มๆ ทั้งวันเป็นครั้งแรกครับ (จริงๆ คือลืม ไม่แน่ใจว่าตอนไปยุโรปสมัยเด็กเคยเจอหิมะรึเปล่า) ก็ขอสรุปทริปครั้งนี้ไว้ดังนี้ครับ

วันที่ 30 ธค 2557 กทม-นาริตะ-โยโกฮาม่า

• ขึ้นเครื่องจากสุวรรณภูมิ 2:00 (เครื่อง Take off จริงๆ 2:55)
• เกือบเดินมาขึ้นไม่ทัน เพราะเลาจ์กับเกทไกลกันมาก
• ถึงมาเก๊า 6:00 หนาว 11 องศา ตัวสั่น
• เดินเล่นในสนามบิน สำรวจสนามบินดูพระอาทิตย์ขึ้น
• ขึ้นเครื่องจากมาเกา 9:00 ถึงนาริตะ 15:00
• เห็นฟูจิบนเครื่อง
• ถึงนาริตะแล้วซื้อตั๋วโดยสาร Tokyo direct ticket, Kanto area pass
• นั่ง Narita Express 15:47 มาลง Yokohama Sta.
• นั่ง Yokohama line rapid มาลง Nakayama Sta.
• ซื้อ KFC รองท้องกินที่สถานี เพราะกลัวที่บ้านไม่มีอะไรให้กิน
• ขึ้น taxi มาลงที่บ้าน มีปัญหาในการสื่อสารทางกับแทกซี่เล็กน้อย แต่ก็มาถึง
• ปรากฎที่บ้านทำข้าวให้กิน กินข้าวเย็น ข้าวแกงกะหรี่ สลัดหมู สาเก
• นอนที่บ้าน

วันที่ 31 ธค 2557 ต่อรถไฟจำลอง-คามาคุระ-Enoshima

• ตื่นมากินข้าวเช้ากับที่บ้าน
• คุณลุงพาไป Kamoi Sta. ขึ้นรถไฟ Yokohama Line ไปลงที่ Machida Sta.
• ไปทำรถไฟจำลองที่ Minamo สนุกมาก คุณลุงคนขายเอาใจใส่มาก (คนที่มานั่งเล่นรถไฟถึงกับมาดูเราด้วย) แล้วก็ใจดีสุดๆ รถไฟราคา 2000 เยน ค่าสอน 1000 เยน คุ้มมากที่สุด
• ความสนุกอีกอย่างคือเราเรียนเทคนิกการทำโมเดลสำหรับรถไฟจำลองด้วยภาษาญี่ปุ่นและภาษามือครับ แต่ในที่สุดก็ทำจนเสร็จ 555 ผมเจอร้านนี้จากรายการ Japanology Plus ครับ

• นั่งรถไฟ Odakyu Line ไปลงที่ Fujisawa Sta. นั่ง Tokaido Line ไปลง Ofuna Sta. และนั่ง Yokosuka Line มาลง Kamakura Sta.
• นั่งรถไฟ Enoden ดูวิวเลียบชายทะเล
• ลงที่ Hanase Sta. เดินไปดู Daibutsu (พระใหญ่)
• เดินกลับมาขึ้น Enoden ที่ Hanase Sta. แล้วก็นั่งรถไฟ Enoden ต่อไป Enoshima Sta.
• ดูตะวันตกดินที่ Enoshima Bridge
• เดินขึ้นเขาไปดู Enoshima Sea Candle Light Up

 

• ขึ้นไปที่ประภาคาร ลมแรง หนาวมาก ประภาคารสั่นด้วย
• กลับมาที่ Enoshima Sta. นั่ง Shonan Monorail กลับ Ofuna Sta. แล้วต่อรถไฟกลับมา Kamoi
• ทานข้าวเย็นที่บ้าน พร้อมดูรายการทีวีฉลองปีใหม่

วันที่ 1 มค 2558 ฉลองปีใหม่-Yokohama Minatomirai-Yokohama Chinatown

• ตื่นมาทาน Ozoni เป็นอาหารปีใหม่ของญี่ปุ่น
• นั่งรถไฟจาก Kamoi Sta. ไปลง Sakurajicho Sta.
• ออกมาเดินข้ามสะพานลอย พบว่าหิมะตก
• เดินเล่นแถวตึก Landmark Tower ท่ามกลางหิมะตก บรรยากาศดีมาก แต่หนาวจนแทบแข็ง ต้องซื้อน้ำจากตู้กดมาทำให้ตัวอุ่น และพบว่าซื้อแผ่นแปะให้ความร้อนที่ร้านสะดวกซื้อ จะตรงจุดกว่า (ทำไมตู้กดมันไม่มีขายหว่า)
• เดินลัดมาตรงห้างแถวนั้น (ย่านนี้เป็นย่านธุรกิจใหม่ ชื่อว่า Minatomirai มินาโตะมิไร ครับ)
• กลับมาสถานีรถใต้ดิน Bashamigi นั่ง Minatomirai Line ไปลง Motomachi-Chugai เพื่อมา Yokohama China Town
• เดินเล่นนิดหน่อย ซื้อของฝาก
• นั่งรถไฟใต้ดินจาก Motomachi-Chugai กลับมา Yokohama แล้วนั่ง Yokohama line กลับ Kamoi
• กลับมาเดิน Lalaport Yokohama เล็กน้อย แล้วเดินกลับ
• กินปาร์ตี้กับที่บ้าน
• นอน

วันที่ 2 มค 2558 ช็อปปิ้งโตเกียว-ถวายความเคารพจักรพรรดิญี่ปุ่น-Railway Museum (Fail)

• ตื่นสายนิดหน่อย
• ทานข้าวเช้ากับที่บ้าน
• เดินไป JR Kamoi Station
• เริ่ม ใช้ JR Kanto area pass นั่ง Yokohama line มาลง Higashi Kanagawa แล้วเปลี่ยนเป็น Keihin Tohoku Line แล้วนั่งไปลง Tokyo Station
• เดิน Daimaru Tokyo Station ดูคนแย่งกันซื้อถุงโชคดี (Fukubukuro 福袋)
• จองตั๋วรถไฟ Narita Express ของขากลับวันสุดท้ายที่สถานี Tokyo
• เดินไป Imperial palace
• ไปโบกธงให้จักรพรรดิญี่ปุ่นเนื่องในวันปีใหม่ใน Imperial Palace (ปีหนึ่งจะเปิดให้ทำอย่างนี้ได้แค่สองวันคือวันเกิดจักรพรรดิ กับวันที่ 2 มกราคม) คนเยอะมาก แต่จัดเป็นระเบียบสุดๆ
• เดินกลับมา Tokyo Station หาของกินที่ Marunouchi Building
• นั่งรถไฟไป Omiya
• ไป Railway Museum แต่ปรากฎว่าดันปิดก่อนเวลาปกติเลยได้แต่อยู่ข้างนอก
• กลับมาดู Tokyo Station Light Up
• นั่งรถไฟกลับ Yokohama Station และกลับ Nakayama Station นั่งแทกซี่เข้าบ้าน

วันที่ 3 มค 2558 ช็อปปิ้งโยโกฮาม่า-Hara Model Railway Museum

• เดินไปช็อปปิ้งที่ Lalaport Yokohama: มี Tokyu Hands และ Muji กำลังลดราคา, มีถุงโชคดี
• เดินไป JR Kamoi Sta.
• นั่งรถไฟจาก Kamoi Sta. ไป Yokohama Sta.
• เดินจาก Yokohama Station ไป Hara Model Railway Museum
• เข้าชม Hara Model Railway Museum
• เดินเล่น Marui City Yokohama, Sogo ซื้อซูชิไปกินบนรถไฟ
• นั่งรถไฟ Narita Express จาก Yokohama ไป Tokyo (Narita Express ใช้เป็นรถไฟธรรมดาก็ได้ ขึ้นตรงไหนก็ได้ ซึ่งสะดวกมากเพราะ Pass เราครอบคลุมอยู่แล้ว และก็แทบไม่มีคนใช้ Narita Express เลยยกเว้นนักท่องเที่ยวที่จะไปสนามบิน)
• นั่ง Yamanote Line ไปลง Okachimachi
• เดินช็อปปิ้งตลาด Ameyoko ซื้อของใน Matsumoto Kiyoshi และ Yodobashi Camera สาขา Ameyoko
• นั่งรถไฟกลับ Tokyo Sta. แวะซื้อของฝากเล็กน้อยในสถานี แล้วนั่งรถไฟกลับบ้าน
• ทานข้าวเย็นกับที่บ้าน
• จัดกระเป๋าเตรียมกลับ

วันที่ 4 มค 2558 นาริตะ-กทม

• ตื่นเช้า ดูทีวี ทานข้าวเช้ากับที่บ้าน
• ให้ที่บ้านขับรถไปซื้อยาที่มีคนฝากซื้อ ระหว่างทางไปสถานี Nakayama
• ร่ำลาที่บ้านที่สถานี Nakayama
• นั่ง Yokohama Line มาลง Yokohama Sta. และนั่ง Narita Express ไป Narita Airport Terminal 2
• เช็คอิน ช็อปปิ้งที่ในสนามบินเล็กน้อย (UNIQLO, ขนม Royce)
• ขึ้นเครื่องบิน มาแวะต่อเครื่องที่มาเก๊า
• จากมาเก๊า กลับถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
• รอคิวแทกซี่ที่สุวรรณภูมินานมาก