ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาอีกแล้วครับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คราวนี้ผมไปกับครอบครัว (พ่อ แม่ และน้องครับ) เป็นครั้งที่สองที่ไปที่ญี่ปุ่น ไปเองเหมือนเดิมครับไม่ได้ไปกับทัวร์ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเกียวโตกับโอซาก้า (ลงการบินไทยที่นาริตะ พักสามคืน และนั่งชิงกันเซ็นไปเกียวโต แล้วกลับจากสนามบินที่คันไซเลยครับ) ขอสรุปไว้ก่อน รูปถ่ายมาเยอะยังไม่ได้ดูเลยครับ
วันแรก: สุวรรณภูมิ - โตเกียว - Midori Sushi
- ออกจากสุวรรณภูมิ 7 โมง โดยการบินไทย เที่ยวบิน TG 676 เป็นเครื่อง Airbus A380 เครื่องใหญ่ด้วย นั่งสบายดี กว้างกว่าเครื่องเล็ก
- ถึงที่โน่นบ่ายสามโมง
- ผ่าน Immigration คราวนี้เร็วกว่าครั้งที่แล้ว คิวสั้น (คงเพราะว่าไฟลท์ที่ลงตอนบ่ายไม่ค่อยมี) ครึ่งชั่วโมงก็ออกมาแล้ว
- ซื้อ JR Kanto Area Pass เหมือนเดิม แต่แอบไม่คุ้มเท่าครั้งที่แล้วเพราะไม่ได้ใช้นั่งชิงกันเซ็น (8300 เยน)
- ซื้อ Tokyo Subway 3 day Pass เพิ่ม (1500 เยน)
- เนื่องจากทริปนี้ไปกับที่บ้าน เลยขี้เกียจว่าจะต้องมานั่งขึ้นรถไฟอ้อมไปมา เลยซื้อพาสให้มันใช้ได้เกือบทุกรถไฟในเมืองเลย ซึ่งก็สะดวกดีครับ
- ออกจากสนามบินมาโตเกียวด้วย Narita Express ต่อ Subway (ใช้พาสทั้งคู่วันแรกเลย)
- พักที่ Centurion Hotel Residential Akasaka ละแวกเดียวกับที่พักเดิมเลย เนื่องจากคุ้นแถวนี้แล้ว ไม่หลงแน่ๆ
- ออกมากินข้าวที่ Sushi Midori สาขา Akasaka อีกแล้ว กินจนเหลือเพราะน้องสั่งเกินมาชุดนึง ไม่มีบริการห่อกลับ แต่ก็ไม่แพงมาก สามคน 9000 เยน
- เดินไป Roppongi Hills Mori Tower เพื่อชมวิวจากบนยอด
- นั่งรถไฟกลับโรงแรม นอน
- ออกเดินทางไปฟูจิ โดยไปขึ้นรถไฟที่ Shinjuku (จากที่พัก นั่ง Chiyoda Line ไป Harajuku แล้วนั่ง Yamanote ไป Shinjuku)
- นั่งรถไฟ Limited Express Kaiji ไปลง Otsuki แล้วต่อ Fujikyo Kawaguchiko Line ไปลง Kawaguchiko ได้นั่งคันใหม่กว่าครั้งที่แล้วด้วย ลายสวยดี
- เดินจากสถานี Kawaguchiko ไปขึ้น Ropeway ดูวิว
- เดินกลับสถานี
- นั่งรถไฟกลับมา Shinjuku
- เดินเล่นแถว Shinjuku แยกกันเดินกับที่บ้าน ผมไปเดิน LABI ห้างขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วนัดเจอที่แมคโดนัลด์
- กินข้าวเย็นที่ Tonkatsu Wako SUBNADE Shinjuku
- กลับมานอน
- ออกเดินทางไฟ Hitachi Seaside Park ด้วยการนั่งรถใต้ดินไป Ueno Station รถไฟใต้ดินคนแน่นมากๆ ช่วงแถวๆ ที่พักเพราะว่าเป็นวันทำงาน
- ขึ้น Limited Express Super Hitachi ไปลงสุดทางตรง Katsura
- นั่งรถบัสไปลงที่ Hitachi Seaside Park แต่ลงผิด ลงก่อนไปสองป้าย ต้องเดินต่อ
- ถึงสวนแล้วก็นั่งรถชมสวน เพราะตอนนั้นฝนตก+รีบๆ
- ถ่ายรูปชมสวน แล้วก็นั่งรถบัสกลับสถานี Katsura แต่ว่ามาไม่ทันเพราะรถเมล์มาสาย (ฝนตกด้วยมั้ง) เลยได้ใช้อภิสิทธิ์ของ Kanto Area Pass จองรอบถัดมาอีกครึ่ง ชม.ฟรี
- นั่งกลับมา Ueno และนั่งสาย Yamanote มาลง Tokyo
- เจอแจนที่ Tokyo Station ตรงห้าง Daimaru
- ไปซื้อตั๋วชิงกันเซ็นที่จะใช้เดินทางในวันต่อมา
- ออกมาถ่ายรูปแถวๆ สถานีที่ได้รับการบูรณะใหม่ และเดินชมมาจนถึงสวนรอบ Tokyo Imperial Palace ดูสะพานรูปแว่นตา (Meganebashi)
- นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานี Oshiage
- ไปขึ้น Tokyo Sky Tree ชมวิวจากข้างบน สูงมาก
- นั่งรถไฟใต้ดินไปลง Akihabara เนื่องจากน้องจะไปซื้อของแถวนั้น
- กินข้าวแถว Akihabara
- นั่งรถไฟใต้ดินกลับที่พัก ส่งพ่อแม่แล้วผมก็นั่งรถไฟไปสักการะ Apple Store สาขา Omotesando แล้วก็กลับ
- นั่งรถใต้ดินไป Tokyo Station
- ขึ้นชิงกันเซ็น Nozomi Super Express ที่เร็วที่สุดจากโตเกียว ไปยังเกียวโต มาขึ้นเกือบจะไม่ทันเพราะลากกระเป๋ากันนาน
- นั่งชิงกันเซ็นใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่ง จากโตเกียว ถึงเกียวโต
- ซื้อ Kansai Thru Pass ใช้เดินทางที่สถานีรถบัสของเกียวโต
- นั่ง Subway จากสถานีเกียวโต มาลงสถานี Karasuma เปลี่ยนเป็นรถไฟ Hankyu Kyoto Line มาลงสถานี Omiya
- เช็คอินที่พัก (Village Kyoto)
- นั่งรถไฟจาก Omiya ไปกินข้าวเที่ยงแถวหลังห้าง Daimaru Kyoto (หนึ่งสถานี)
- นั่งรถราง Randen จาก Omiya ไปลง Arashiyama
- เที่ยวที่วัด Tenryuji ใน Arashiyama สวนสวยดีๆ
- เดินออกมาชมป่าไผ่แถวหลังวัด Tenryuji
- เดินมาดูสะพาน Arashiyama พระอาทิตย์ตกดินพอดี
- กินข้าวที่ร้านข้าวหน้าปลาไหลที่แจนแนะนำ อร่อย
- เดินทางกลับโดยรถไฟจาก Arashiyama มาลงสถานี Karasuma
- ช็อปปิ้งที่ Daimaru Kyoto
- เดินชมวิวกลางคืนแถวนั้น แล้วก็เดินมาข้างๆ แม่น้ำ
- กลับโรงแรม นอน
- นั่งรถไฟจาก Omiya ไปเปลี่ยนที่สถานี Kawaramachi แล้วไปเปลี่ยนสาย Keihan ไปลง Kiyomizu-Gojo เพื่อไปวัด Kiyomizu Daira
- ถ่ายรูปที่วัด Kiyomizu ที่เป็นวัดไม้ ขนาดใหญ่
- นั่งแทกซี่กลับมากินข้าวกลางวัน เพราะเริ่มขี้เกียจเดินและอยากประหยัดเวลา จริงๆ ว่าจะกินข้าวแถวที่อื่น แต่แบตเตอรี่กล้องผมดันหมด แล้วก็ลืมแบตเสริมไว้ที่โรงแรม เลยต้องกลับมาเอาที่โรงแรม
- กินร้านข้าวหน้าปลาไหล แถว Nishiki Market อร่อยมาก
- นั่ง Keihan ไปลงที่ Fushimi Inari
- เยี่ยมชม Fushimi Inari Shrine ทางเดินที่มีเสาโทริอิแดงๆ เรียงกันเยอะๆ
- ที่บ้านอยากไปกินข้าวที่โอซาก้า เลยนั่งรถไฟกลับมาที่ Kawaramachi แล้วเปลี่ยนเป็น Hankyu Kyoto Line ไปลงที่ Umeda (Osaka)
- ขึ้นดู Floating Market Observatory
- นั่งแทกซี่จาก Floating Market Observatory ไปลงที่ Dotonbori Street
- กินปูที่่ร้านขายปูแถว Dotonbori Street ไม่ได้กินร้านที่เขาฮิตกัน เพราะคนเยอะมาก แต่ก็กินร้านข้างๆ ที่ขายปูเหมือนกัน อร่อยดี
- นั่ง Subway กลับสถานี Umeda แล้วก็นั่ง Hankyu Kyoto Line กลับมาลงที่เกียวโต
- ถึงโรงแรม ผมไปแวะซูเปอร์แถวโรงแรม ซื้อของฝาก
- นอน
- เช็คเอาท์จากโรงแรมประมาณสิบโมง
- นั่งรถไฟ Hankyu Kyoto Line ย้อนกลับมาที่สถานี Kawaramachi เพื่อจะขึ้น Limited Express ไปลงสถานี Umeda (Osaka) ที่เลือกนั่งย้อนเพราะคนเยอะ และมีของด้วยเลยกลัวไม่มีที่นั่ง ซึ่งก็เกือบไม่มีที่นั่งจริงๆ
- มาถึง Osaka นั่งรถใต้ดินมายัง Nanba
- ตอนแรกว่าจะฝากของไว้ที่สถานี แต่ที่บ้านกลัวว่าตอนเย็นจะของเยอะและขี้เกียจแบก เลยจะไปฝากไว้ตรง Airport เลยนั่ง Nankai Airport Express แบบธรรมดาเอาของไปฝากไว้ที่สนามบิน
- พอถึงสนามบิน จะนั่งรถไฟกลับ ปรากฎว่ารอบรอนาน เลยลองขึ้นรถไฟ Limited Express Rap;t (เพิ่มคนละประมาณ 500 เยน) พบว่านั่งกลับมาสบายมากๆ ขบวนรถไฟก็สวยด้วย
- นั่งรถใต้ดินจาก Nanba ไปลงสถานี Tanimachi-yonchome เพื่อไปขึ้นปราสาทโอซาก้า
- เที่ยวชมปราสาทโอซาก้า ได้ขึ้นไปดูวิว ลมแรง แต่วิวดี ฟ้าใส
- นั่งรถใต้ดินกลับมา Nanba กินเนื้อมัตซึซากะที่ร้าน Matsusakagyu Yakiniku M เนื้ออร่อยโคตร มันละลายในปากจริงๆ
- เดินมาช็อปปิ้งที่ซูเปอร์ของห้าง Takashiyama ซื้อขนมของฝาก
- นั่งรถไฟ Limited Express Rap;t กลับสนามบินคันไซ
- เช็คอินการบินไทย คิวยาวมากๆๆๆๆ
- อาบน้ำที่ KIX Airport Lounge เพราะเป็นไฟลท์ดึก เลยยอมเสียเงินอาบน้ำให้สบายก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งก็สบายดี แต่ห้องอาบน้ำไม่ได้หรูเหมือนที่โรงแรม แต่ก็สะอาดอยู่
- นั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพ ออกตอนเที่ยงคืนที่โอซาก้า ถึงสุวรรณภูมิตีสี่ บินเครื่อง A330 ลำเล็กธรรมดา ที่แคบกว่าเดิมหน่อย เป็นอันจบทริปครับ