Button Battery Ingestion

ได้มีโอกาสอ่านเปเปอร์รีวิวเรื่องการกลืน Button Battery (ถ่านกระดุม) เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ

ถ่านกระดุม เป็นถ่านขนาดเล็กที่นิยมใช้ในอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์หลายชนิดในปัจจุบัน เราสามารถพบถ่านชนิดนี้ได้หลายที่ ที่ๆ พบบ่อยก็คือเครื่องช่วยฟัง, รีโมทคอนโทรล, ของเล่น, นาฬิกา, เทียนอิเลคทรอนิกส์, เครื่องชั่งน้ำหนัก, กุญแจรีโมท นอกเหนือไปจากนี้ ที่ๆ ยังอาจจะพบได้ก็เช่น ไฟฉาย, เครื่องคิดเลข, เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด, เทอร์โมมิเตอร์ดิจิตอล, เครื่องเล่นเพลง และกล้องถ่ายรูป

ปัญหาของการกลืนกินถ่านกระดุมนั้นไม่ได้อยู่ที่สารที่อยู่ในถ่านกระดุมโดยตรง หากแต่เป็นปัญหาของกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะถ่านกระดุมที่เป็นถ่านลิเธียม เนื่องจากถ่านชนิดนี้มักมีความต่างศักย์สูง บริเวณขั้วลบของถ่านกระดุมเมื่อเข้าไปค้างอยู่ในเนื้อเยื่อของหลอดอาหาร จะทำให้เกิดครบวงจรไฟฟ้า (หลอดอาหารมีน้ำลาย ซึ่งนำไฟฟ้า) และเกิดไอออนของไฮดรอกไซด์ (OH-) สะสมที่ผนังหลอดอาหารที่ขั้วลบ ซึ่งไอออนนี้ที่มีความเป็นเบสสูงนี่เอง จึงทำการกัดกร่อนผนังของหลอดอาหารที่ถ่านกระดุมไปติดอยู่ ทำให้เนื้อเยื่อของหลอดอาหารตาย โดยเฉพาะถ่านที่มีความต่างศักย์เหลือในตัวถ่านมากกว่า 1.2 โวลต์ในตอนกลืนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้โดยง่าย

นอกจากนี้ถ้าถ่านกระดุมหลุดไปได้ ไม่ติดอยู่ที่เดียว ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์กัดกร่อนของเนื้อเยื่อเกิดขึ้นนี่เอง (เป็นเหตุว่าทำไมจึงไม่ต้องทำอะไรถ้าถ่านมันไม่ได้ไปติดที่ไหน อึออกมาปกติ)

เมื่อมีเด็ก (หรือผู้ใหญ่) ที่เราสับสนว่ากลืนถ่านกระดุมหรือไม่ ในทางปฏิบัติแนะนำให้ทำการ X-ray เพื่อดูว่าลักษณะของภาพที่ได้เข้ากับถ่านหรือเปล่า โดยลักษณะของ X-ray ที่พบในถ่านกระดุม มักจะมี ขอบกลม (double ring or halo sign) ต่างจากเหรียญที่ไม่มีลักษณะนี้ นอกเหนือจากนี้การ X-ray ในท่า Lateral ก็อาจจะบอกได้ว่าขั้วลบของถ่าน (ขอบที่เล็กกว่าอีกด้าน) หันไปทาง Trachea หรือ Spine

ในการรักษาถ่านกระดุมติดบริเวณหลอดอาหาร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเอาออก โดยใน Guideline ฉบับปัจจุบันแนะนำให้เอาออกโดยเร็ว หากเป็นไปได้ก็ควรจะภายในสองชั่วโมง เนื่องจากถ้าเอาออกช้า อาจจะเกิดความเสียหายต่อหลอดอาหารได้มาก แนวทาง Guideline นั้นสามารถดูได้จากตัวเปเปอร์ฉบับเต็มครับ

นอกเหนือไปจากนี้ การป้องกันไม่ให้เด็กหยิบถ่านมากลืนได้โดยง่ายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ปัจจุบันตามมาตรฐาน ANSI/UL60065 ในอุปกรณ์ที่ใช้ถ่านกระดุม การเปิดออกเพื่อเจอถ่านนั้นจะต้องอาศัยการขยับที่เปิดสองครั้ง จึงจะถึงตัวถ่าน และในสหรัฐยังมีความพยายามในการผลิตถ่านที่ต้องอยู่ในรังถ่านเท่านั้นถึงจะมีกระแสไฟฟ้าได้ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากถ่านใหม่ก็จะเข้ากันไม่ได้กับรังถ่านแบบเดิมๆ ครับ

ที่มา: Jatana KR, Litovitz T, Reilly JS, Koltai PJ, Rider G, Jacobs IN. Pediatric button battery injuries: 2013 task force update. International journal of pediatric otorhinolaryngology. http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0165587613002851#gr1

รีวิวเกม The Last of Us

เกม The Last of Us เป็นอีกเกมที่ผมรอเล่นตั้งแต่เริ่มได้ข่าวเกมนี้เลยครับ เพราะว่าดูจากวิดีโอเปิดตัวแล้ว กราฟฟิคสวยงามมาก ดูแล้วน่าติดตาม โดยเฉพาะผมชอบเล่นเกมแนวๆ Survival Horror คล้ายๆ แบบนี้อยู่แล้วด้วยครับ (เกมนี้ Exclusive สำหรับ PS3 โดยเฉพาะครับ ไม่ทำลงแพลตฟอร์มอื่น)



เกมนี้เป็นเกมแนว Stealth - Action มุมมองบุคคลที่ 3 ครับ ส่วนของเนื้อเรื่องจะเป็นประมาณโลกหลังจากที่เกิดโรคระบาดร้ายแรงขึ้น ทำให้คนที่อยู่บนโลกส่วนใหญ่กลายเป็นซอมบี้ แต่พระเอกของเรารอดมาอยู่ได้ ทำให้เราต้องหาหนทางในการมีชีวิตรอดต่อไปครับ (พล็อตแบบนี้ จริงๆ ก็เจอบ่อยๆ ในหนังซอมบี้ทั่วๆ ไปน่ะนะ)

เรื่องที่เป็นที่น่าชื่นชมอย่างมากของเกมนี้คือกราฟฟิกครับ ผมว่าเกมนี้เป็นเกมที่รีดความสามารถของเครื่อง PS3 ได้อย่างเต็มที่เกมหนึ่งเลยครับ (มันคงไม่มีเกมที่สวยมากไปกว่านี้แล้วหละ เพราะเกมสวยๆ คงจะหนีไปอยู่บน PS4 ที่เปิดตัวและเตรียมวางขายกันไปหมด) ฉากแต่ละฉากดูสวยงาม และกราฟฟิคเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ป้ายประกาศเก่าๆ ในเมืองร้าง ป้ายแสดงราคาอาหาร หนังสือพิมพ์ที่วางไว้บนโต๊ะ ข้อความที่ถูกเขียนอยู่บนไวท์บอร์ด (ซึ่งพวกนี้จริงๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเนื้อเรื่อง) ก็สามารถที่จะอ่านได้เกือบทุกอัน นอกจากนี้ลม น้ำ สิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็ดูเสมือนจริงทีเดียวเลยครับ เรียกได้ว่า กราฟฟิคช่วง Gameplay ของเกมนี้อาจจะดีกว่า cinematic ของเกมบางเกมเสียเลยด้วยซ้ำ



นอกจากการมีกราฟฟิคที่สวยงามแล้ว เกมยังจะทำให้เรามี "อารมณ์ร่วม" ด้วยฉากแอคชั่นที่ค่อนข้างเร้าใจ และจอยที่สั่นถูกเวลา ผนวกกับระบบเสียงที่คมชัดและเหมาะสมกับสถานการณ์ เช่นเสียงกระจกแตก เสียงระเบิด ทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกันกับตัวเกมเหมือนกันกับนั่งดูหนังอยู่ และลุ้นว่าพระเอกจะรอดได้ไหม ลุ้นว่าศัตรูจะมาทำร้ายเราหรือไม่ครับ

ส่วนของวิธีการเล่นพูดง่ายๆ คือเกมจะมีเป็นฉากๆ ในแต่ละฉากเราต้องทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ใต้โต๊ะบ้าง เค้าน์เตอร์บ้าง หลังกล่องบ้าง ตามซอกมุมอาคารบ้าง เพื่อที่จะหนีให้พ้นจากสายตาของศัตรูครับ ส่วนใหญ่ตัวเกมจะมีเป้าหมายของแต่ละด่านคือต้องเดินผ่านไปยังฉากต่อไปให้ได้ โดยเราอาจจะใช้วิธีค่อยๆ หลบศัตรูไปยังฉากต่อไปก็ได้ หรือว่าจะฆ่าศัตรูให้จนหมดทั้งฉากเลยก็ได้ครับ แต่ด้วยข้อจำกัดที่เกมบีบบังคับกระสุนปืนและอาวุธเสริมให้มีอยู่น้อยมากๆ (บางทีก็แทบไม่มีกระสุนติดตัวเลยทีเดียว) ทำให้ส่วนใหญ่เราต้องอาศัยการหลบๆ ซ่อนๆ แล้วค่อยๆ ลอบบีบคอศัตรูทีละตัวแบบไม่เสียกระสุนมากกว่า นอกจากนี้เรายังสามารถหยิบของใกล้ตัวคือก้อนอิฐ มาปาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรูได้ครับ


ศัตรูก็มีความฉลาดในระดับหนึ่งครับ เช่น ถ้าเห็นเราก็จะเรียกเพื่อนๆ เข้ามารุม หรือว่าถ้าเห็นศพเพื่อนศัตรูด้วยกันก็จะกระจายกำลังออกค้นหาว่าเราอยู่ตรงไหนด้วย

แต่ไม่ต้องกังวลว่าการหลบๆ ซ่อนๆ นั้นจะยากครับ เพราะในเกมนี้ฉากแต่ละฉากค่อนข้างจะใหญ่ถึงใหญ่มากๆ ทำให้มีที่ว่างๆ ให้เราไปซ่อนได้เยอะ ถึงแม้จะมีศัตรูมาเจอเรา แต่เราก็สามารถจะ วิ่งๆๆ แล้วก็ไปหลบตรงมุมไกลๆ ของฉาก แล้วค่อยย่องกลับมาใหม่ได้ครับ

นอกจากความยากในส่วนของกระสุนที่มีอยู่จำกัด ทำให้เราต้องใช้วิธีหลบๆ ซ่อนๆ แล้ว เกมยังกดดันให้ศัตรูบางประเภท สามารถที่จะกัดเราตายได้ในทีเดียวเลยครับ ทำให้เราจะต้องระมัดระวังกับศัตรูประเภทนี้เป็นพิเศษ

ส่วนเรื่องเนื้อเรื่องของเกม ถึงจะไม่ได้จบหวือหวาหรือหักมุมมากเหมือนอย่าง Bioshock Infinite แต่เกมนี้เล่นจนจบแล้วให้อารมณ์ของการดูหนังมากๆ ครับ ตัวละครแต่ละตัวมีที่ไปที่มาอย่างชัดเจน และบทพูดก็ไม่ได้เนิบนาบ หรือเร่งให้เนื้อเรื่องดำเนินเร็วจนเกินไปครับ

สรุปสิ่งที่ชอบในเกมนี้
  • กราฟฟิคสวยงาม
  • ระบบการเล่นที่ค่อนข้างเปิด ไม่ต้องฆ่าศัตรูจนหมดทุกตัว
  • ระบบเสียง
  • เนื้อเรื่องวางได้ดี บทต่างๆ ดี และน่าติดตาม
สรุปสิ่งที่ไม่ค่อยชอบในเกมนี้
  • ยังมีบั๊กในเกมเล็กน้อยครับ ผมลองเดินเล่นๆ บางทีเดินไปอยู่กลางลังเก็บของซะอย่างนั้น นอกจากนี้บางทีศัตรูก็ทำเป็นไม่เห็นเพื่อนเราที่บังอยู่หน้าศัตรูเลยซะอย่างนั้น ทำให้รู้สึกแปลกๆ

หมอผ่าตัดผิดที่!

เนื่องจากมีรายงานข่าวเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ามีการผ่าตัดไตผิดข้างเกิดขึ้นในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกในกรุงนิวยอร์ค ประจวบกับมีเปเปอร์ที่ออกมาพอดี ผมได้อ่านเปเปอร์ที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดผิดที่นี้แล้วขอสรุปคร่าวๆ ดังนี้นะครับ

  • อุบัติการของการเกิดการผ่าตัดผิดที่ (Wrong Site Surgery) พบได้ 0.09 - 4.5 ครั้งต่อการผ่าตัด 10,000 ครั้ง
  • ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนการผ่าตัด แต่ถ้าเกิดขึ้น ก็จบเห่กันทั้งคนไข้ ทั้งหมอ นอกจากนี้ก็ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ถ้าหากโดนฟ้อง
  • ปกติคนเราก็ผิดพลาดกันได้ แต่การผ่าตัดต้องมีหลายคนเข้ามาเกี่ยว และมีระบบการผ่าตัดเข้ามาเกี่ยวซึ่งจะผิดไปถึงคนไข้ได้ ต้องผิดทีละหลายๆ อย่างบังเอิญพร้อมกัน (รวมถึงระบบไม่ดี) จึงจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ (โมเดลของการผิดหลายๆ อย่างพร้อมกันเรียกว่า Swiss Cheese Model)
  • ปัจจัยเสี่ยง แบ่งได้เป็น
    • ปัจจัยจากแพทย์
      • หมอผ่าตัดหลายคน หรือทำหลายการผ่าตัดหลายอย่างในครั้งเดียวกัน
      • ทำเครื่องหมายตำแหน่งที่จะผ่าตัดไม่ถูกต้อง (เช่น หมอผ่าตัดไม่ได้ทำเอง, ใช้หมึกที่ไม่ได้ตกลงกันไว้, ใช้สติ๊กเกอร์แทนการวาดเครื่องหมาย, เวลาการทำเครื่องหมายไม่ตรงกัน)
      • ไม่ตอบ time-out (อาจไม่สนใจ หรือสนใจแต่ไม่เต็มที่) time out คือการที่มีพยาบาลหรือผู้รับผิดชอบมาพูดให้เข้าใจตรงกันก่อนจะเริ่มการผ่าตัดทุกครั้งว่าใคร ผ่าอะไร ที่ไหน ฯลฯ
      • การผ่าตัดที่รีบๆ ทำ รวมถึงการผ่าฉุกเฉิน
      • เหนื่อยหรือผ่ามาหลายรายแล้ว
      • มีการเปลี่ยนการรักษาที่ทำมาเป็นประจำ
      • ไม่ได้คุยกับคนไข้หรือญาติอย่างเป็นทางการ
    • ปัจจัยจากคนไข้
      • รูปร่างผิดไปจากปกติ หรืออ้วนเกินกว่าปกติ
      • ไม่ได้เจอกับหมอก่อนที่จะเริ่มดมยาสลบ
      • คนไข้เข้าใจผิดข้าง หรือผิดการผ่าตัดเอง
      • คนไข้ที่เข้าใจผิดได้ง่าย เช่น อายุน้อย
      • ชื่อซ้ำกับคนอื่นๆ
      • คนที่ดูแลหรือญาติเหนื่อย และไม่สนใจ
    • ปัจจัยจากระบบ
      • ไม่มีการใช้ หรือใช้เอกสารที่เกี่ยวข้อง (เช่น เอกสารขอความยินยอม) ผิดวิธี
      • คนที่ร่วมหรือเกี่ยวข้องไม่กล้าพูดเมื่อเจอสิ่งผิดปกติไปจากเดิม
      • มีการเปลี่ยนเวร หรือส่งเวรไม่ถูกต้อง
      • ใช้เครื่องมือแตกต่างไปจากปกติ หรือตั้งค่าเปลี่ยนไปจากปกติ
      • ไม่มีผู้รับผิดชอบที่แน่นอน หรือผู้รับผิดชอบที่ไม่สนใจ
      • การผ่าตัดแบบเดียวกันซ้ำๆ ติดๆ กัน
      • มีแรงกดดันจากการต้อง "ทำยอด" ผ่าตัด
  • การใช้ WHO Surgical Checklist ได้รับการยอมรับแล้วว่าช่วยลดเหตุการณ์แบบนี้ได้ครับ
ที่มา: Liou T-N, Nussenbaum B. Wrong site surgery in otolaryngology–head and neck surgery. The Laryngoscope. 2013

รีวิว Bioshock Infinite: เกมเทพ มาพร้อมเนื้อเรื่องเทพๆ


เกมในชุด Bioshock เป็นเกม 1st person shooter อีกชุดที่ผมชื่นชอบครับ ทั้งๆ ที่ผมเองเป็นคนที่ไม่ชอบเล่น 1st person shooter เสียเท่าไหร่

เนื่องจากเกมพวกนี้ถ้าทำมาไม่ดีเท่าไหร่ เล่นแล้วจะมึนหัวมาก แถมยิงก็ยากทีเดียว (ผมเล่นเกมยิงๆ ไม่แม่นเท่าไหร่ ถนัดเกมที่ไม่ต้องอาศัยความแม่นอย่างพวก StarCraft เสียมากกว่า) เกมบางเกมก็ไม่มีเนื้อเรื่องอะไรที่น่าสนใจไปกว่า ยิงๆๆ จนจบ

แต่เกม Bioshock นี่เป็นข้อยกเว้นครับ.. ภาคแรกที่ผมเล่นคือ Bioshock ภาค 2 ครับ ตอนนั้นเกมเพิ่งออกใหม่ มีเพื่อนผมที่ชอบเล่น shooter เล่นให้ดู ผมดูแล้วพบว่า เกมมีความน่าสนใจไปนอกเหนือจากการยิง ทำให้ลืมอาการเวียนหัวเล็กน้อยนั้นไปได้

ความน่าสนใจที่ว่านี้อยู่ที่ภาพ ฉาก เนื้อเรื่อง และเสียงประกอบครับ!

ในภาคที่แล้วอย่าง Bioshock และ Bioshock 2 นั้นผู้เล่นจะอยู่ในเมืองสมมติที่ชื่อว่า Raptor เป็นเมืองใต้น้ำที่สร้างในยุค 1970-1980 สถานการณ์คร่าวๆ ก็คือเกิดสงครามในเมืองใต้น้ำนี้อยู่ ผู้เล่นจำเป็นจะต้องต่อสู้ไปตามเนื้อเรื่องเพื่อหลุดออกจากเมืองนี้และกลับมาสู่ผิวน้ำให้ได้ ซึ่งจริงๆ เนื้อเรื่องก็ค่อนข้างจะเป็นเส้นตรง ไม่ค่อยมีจุดหักเหเท่าไรนัก

ความเจ๋งของเกมนี้คือตัวฉาก สิ่งประกอบฉาก ล้วนแล้วแต่นำเอาของที่อยู่ในยุคนั้นมาประกอบกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์, เพลงประกอบอย่าง La mer เล่นไปแล้วก็จะรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ยุคนั้นจริงๆ ครับ นอกจากนี้แล้ว การเดินอ่านพวกสิ่งประกอบฉาก เป็นการเติมเต็มประสบการณ์การเล่นให้มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้เรารู้สึก "อิน" กับเนื้อเรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผมคิดว่าจุดนี้เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ ประทับใจในเกมนี้

และแน่นอน ในภาคใหม่ Bioshock Infinite นี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ



ภาคใหม่นี้เราจะเล่นเป็นตัวเอกที่ชื่อว่า Booker DeWitt เป็นนักสืบที่ต้องไปตามล่าหาผู้หญิง Elizabeth ที่อยู่ในเมืองบนฟ้าครับ ฉากของเมืองนั้นเป็นฉากสว่างมากๆ ผิดกับภาคที่แล้วที่เป็นฉากมืดๆ (เพราะอยู่ใต้ทะเลมืดๆ น่ากลัวๆ) ฉากของภาคนี้นั้นจะรู้สึกสวยงาม เหมือนกับอยู่บนสวรรค์เลยครับ

เนื้อเรื่องของเกมนี้จะเก่ากว่าเกมภาคแรกๆ ครับ โดยจะเป็นยุค 1901 ในยุคนั้นเป็นยุคของ American Exceptionalism ก็คือคนอเมริกายุคนั้นเชื่อว่าอเมริกาดีกว่าประเทศอื่นๆ ตรงที่เป็นสังคมแบบประชาธิปไตย และเป็นสังคมอิสระมาก และมีการสร้างเมืองลอยฟ้านี้ขึ้นมาเพื่อประกาศศักดาว่าตัวเองเจ๋งครับ ก็จะเป็นยุคของพวกเครื่องจักรไอน้ำ เครื่องมือจักรกลต่างๆ

ฉากแรกที่เป็นฉากนำเข้าสู่ตัวเกม คุณจะงงว่า เอ นี่มันเกมยิงสะบั้นหั่นแหลกจริงหรือ ทำไมฉากมันสวย สงบเรียบกันเป็นอย่างนี้ ช่างเป็นเมืองที่น่าอยู่เสียจริง


แต่แน่นอน เมืองลอยฟ้า Columbia มันก็ไม่ต่างอะไรกับ Rapture หรือเมืองอื่นๆ ที่ไม่ว่าจะสวยงามแค่ไหน แต่ก็หลีกพ้นจากจิตใจของมนุษย์ที่มีความแก่งแย่งกันอยู่ภายในไม่ได้

แต่เนื้อเรื่องที่เป็นแก่นของเรื่องจริงๆ นั้นไม่ใช่เรื่องนี้ครับ แต่ถ้าพูดถึงแล้วจะสปอยเลย เพราะว่ามันลึกและแยบยลกว่านั้นมาก เอาเป็นว่าเนื้อเรื่องเกมนี้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ซะมากกว่าดีกว่าครับ คล้ายๆ กับวิทยาศาสตร์ของการทำให้เมืองลอยได้ละ (แต่ไม่ใช่นะ แค่เปรียบเทียบ)

ผมเล่นเกมนี้ผ่าน Play Station 3 ครับ ความสวยงามของฉากนั้นทำได้ดีจริงๆ ครับ แม้กับคอนโซลเก่าแบบนี้ มีวิดีโอเปรียบเทียบว่าภาคของ PC จะมีความสวยงามมากกว่านี้อีก แต่ก็ทำไงได้ครับ คอมที่มีอยู่มีแต่ Thinkpad ซึ่งคงเล่นไม่ได้


ระบบการเล่นของภาคนี้ก็ไม่ต่างจากภาคก่อนๆ ครับ ผู้เล่น จะมีปืน และมีพลังที่ใช้ในการร่ายมนตร์ ซึ่งในเกมเรียกมนตร์ว่า Vigor และพลังว่า Salt ตัวอย่างของมนตร์ที่เรียกใช้ได้ก็คือ ส่งอีกาไปทำลายคู่ต่อสู้, ปาระเบิดไฟ (เหมือน Incinerate! ของภาคที่แล้ว), มนตร์ทำให้ศัตรูมาเป็นพวกเรา, ชอตไฟฟ้าศัตรู, ยกศัตรูให้ลอย ฯลฯ ซึ่งก็สนุกดีครับ ทำให้ไม่ใช่ยิงปืนเพียงอย่างเดียวเหมือน 1st person เกมอื่นๆ

นอกจากนี้แล้วในภาคนี้เรายังมีผู้ช่วย (จะใครที่ไหน นอกจากสาวสวย Elizabeth) ที่คอยเก็บของ เก็บเงินให้ และปาของสำคัญอย่างกระสุน, Salt, Health มาให้ด้วยครับ ทำให้เวลาคับขันเราก็ยังพอเล่นต่อไปได้โดยไม่ต้องพะวงวะต้องวิ่งไปเก็บกระสุนมาใหม่ จุดนี้ทำให้การเล่นสนุกมากขึ้นครับ และก็ทำให้เกมง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้ผู้ช่วยก็น่ารักดี และยังแสดงอารมณ์ไปนั่งเล่น ไปพิงเสา เวลาที่เราอยู่เฉยๆ ด้วย ไม่ใช่มายืนจ้องตากันตลอดเวลาเหมือน AI ของเกมอื่นๆ

ระบบเสียงของภาคนี้นี้เจ๋งดีครับ มีเพลงประกอบหลายเพลงที่เข้ากับยุคและเนื้อเรื่องดี และเพลงหลายเพลงก็เพราะมาก ยกตัวอย่างเพลงนี้ที่เราจะได้ฟังกันในฉากแรกครับ



โดยสรุปแล้วผมประทับใจกับเกมภาคนี้มากครับ (ยิ่งประทับใจมากกับตอนจบแบบนี้ซึ่งผมชอบเรื่องราวแบบนี้อยู่แล้ว) เรียกได้ว่าเกมนี้ผมให้ 10 เต็มเหมือนกับรีวิวของที่อื่นๆ จริงๆ ครับ เนื้อหาเกมค่อนข้างจะจบสมบูรณ์ในตัวมาก ภาคเสริมที่เป็น DLC ที่จะออกในอนาคตน่าจะเป็นเนื้อเรื่องข้างเคียงมากกว่าเนื้อเรื่องต่อไปครับ

(c) Copyright 2015 Pawin Numthavaj. Powered by Blogger.